ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสารฉีดเติมเต็ม HA (Hyaluronic acid)
ปัจจุบันนี้มีการกล่าวถึงการใช้สารฉีดเพื่อเสริมความงาม เติมร่อง เติมรอยบุ๋ม เพิ่มความอูมอวบให้กับส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และเพื่อลดสภาวะที่เป็นร่องรอยของความแก่ อันเป็นสิ่งที่สาว ๆ หนุ่ม ๆ ทั้งหลายไม่พึงให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะบนใบหน้า แต่การใช้สารเหล่านี้ฉีดเข้าไปในร่างกาย ควรจะได้มีการศึกษาวิจัยให้ถ่องแท้ก่อน เพื่อ ป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียง หรือผลเสียในภายหลัง
สารฉีดเติมเพื่อเสริมความงามที่จัดว่าเป็นสารที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ยอมรับให้ใช้ในวงการแพทย์ทางด้าน ความงามปัจจุบันนี้มากที่สุดตัวหนึ่ง น่าจะเป็นสารในกลุ่ม HA หรือชื่อเต็มว่า hyaluronic acid นั่นเอง เราจะมาทำความรู้จักกับสารนี้กัน
สาร HA นี้ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ของสหรัฐอเมริกา ให้ใช้เพื่อทดแทนการสูญเสีย ของเนื้อเยื่อตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 โดยรับรองการใช้สารที่มีชื่อว่า Restylane gel และ Hylaform สำหรับการแก้ไขร่อง ต่าง ๆ บนใบหน้า การรับรองโดย อย.ของสหรัฐเป็นผลให้การใช้สารนี้มีพัฒนาการอย่างชัดเจนและมาทดแทนสาร ในอดีตที่เรียกว่า collagen ซึ่งผลิตมาจากสัตว์ ตั้งแต่ปี 1981
สารที่เรียกว่า HA นี้ เป็นสารที่พบได้ในผิวหนังของสัตว์ทั่วไป เป็นสารรองพี้น แทรกอยู่ระหว่างเส้นใย collagen มีโครงสร้างและองค์ประกอบเหมือนกันหมดในสัตว์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดใด ก็ตาม (ตัวโครงสร้างทางเคมีนั้นประกอบด้วยสาย polysaccharide ที่มาจาก disaccharide unit ของ Nacetylglucosamine และ D-glucuronic acid (อันนี้ไม่ต้องรู้ก็ได้ : ผู้เขียน)
สาร HA ในผิวหนังมนุษย์เรา จะเป็นตัวที่ดึงให้น้ำเข้ามา และทำหน้าที่เป็นเหมือนตัวหล่อลื่นให้ collagen และ elastin สามารถเคลื่อนไหวไปมาในผิวหนังได้ ดังนั้นสภาพของสารนี้จึงเป็นสารที่จะหนืด ๆ เล็กน้อยเหมือนเยลลี เหนียว ๆ ในร่างกายมนุษย์พบว่าสารนี้จะมีปริมาณน้อยลงเมี่ออายุมากขึ้น และส่งผลทำให้ผิวหนังคนเราเต่งตึง น้อยลง บางลง และเริ่มจะมีรอยเหี่ยวย่นมากขึ้นตามวัย
มนุษย์สามารถสกัดสาร HA นี้ได้ตั้งแต่ปี ค.ศ..1934 และเริ่มผลิตออกมาเป็นสารที่ใช้เป็น fller ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1989 โดยพบว่าสารนี้ไม่กระตุ้นการสร้างภูมิต่อต้าน และเข้ากันได้กับเนื้อของคนทุกคน แต่เมื่อฉีดเข้าไปใน ร่างกายแล้วสารนี้จะถูกทำลายโดยเอ็นไซม์ของร่างกายคือ hyaluronidase ได้ในเวลาไม่นาน โดยมีเวลาครึ่งชีวิตเพียง 12-24 ชั่วโมง ดังนั้น ในกระบวนการผลิตให้สารนี้อยู่นานขึ้น จึงต้องผ่านกระบวนการทางเคมีบางอย่าง (crosslinking process) ซึ่งเป็นผลให้เกิด HA ในท้องตลาดในรูปแบบต่างๆกัน ตามกระบวนการทางเคมีที่แตกต่าง กันนี่เอง
กระบวนการทางเคมีที่ว่านี้ แบ่งออกได้เป็นสองแบบใหญ่ๆ คือ (1) Crosslink ที่มาจากสัตว์ และ (2) Crosslink ที่ไม่ได้มาจากสัตว์ ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในท้องตลาดในขณะนี้ พอจะสรุปได้ตามตารางข้างล่างนี้
ข้อบ่งชี้สำหรับการใช้สารฉีดกลุ่ม HA นั้นคล้าย ๆ กัน คือ ใช้สำหรับการแก้ไขร่องลึกและรอยย่นต่างๆที่เกิด ขึ้นบนใบหน้า ได้แก่ ใบหน้าส่วนล่าง อันได้แก่ ร่องแก้ม ร่องรอบปาก มุมปาก หรือร่องลึกที่เกิดขึ้นจากการแสดง สีหน้าต่าง ๆ โดยเฉพาะเสริมการใช้ botox
โดยทั่วไปขนาดที่บรรจุขายในท้องตลาดนั้นมักจะเป็นหลอดฉีด ในปริมาณประมาณ 0.5- 1 ซีซี ดังนั้น การใช้ สารกลุ่มนี้เพื่อจะฉีดในปริมาณมาก ๆ เช่น ฉีดเติมแก้ม เสริมหน้าอก จึงเป็นไปไม่ได้แน่นอน และพึงระวังไว้เสมอ เมี่อมีผู้เสนอว่าสามารถฉีดสาร HA ในปริมาณมากๆ เพราะอาจจะไม่ใช่สารนี้จริงๆก็ได้ แต่เป็นสารอื่นๆที่ทางการ แพทย์ห้ามใช้ เช่น น้ำมันซิลิโคน เป็นต้น
การใช้สารนี้ไม่มีความจำเป็นต้องทดสอบการแพ้ เนื่องจากเป็นไปไม่ได้ในทางทฤษฎี อันเป็นข้อดีของสารกลุ่ม นี้ มีความปลอดภัยสูง และเนื่องจากสาร HA เป็นสารที่สามารถย่อยสลายได้โดยร่างกาย ใช้เวลาประมาณ 6-9 เดือน ทั้งนี้แล้วแต่ความสามารถของร่างกายแต่ละคน
ผลข้างเคียงของการฉีดสารเติมเต็ม อาจจะมีอาการบวมแดง ปวดได้หลังการฉีดโดยมากประมาณ 5-7 วัน อาจ จะพบว่ามีก้อนเป็นไตแข็ง ตะปุ่มตะป่ำหรือไม่เรียบ อาจมีรอยฟกช้ำได้หลังการฉีด การฉีดสาร Restylane® ที่ไม่มี ยาชาผสมอยู่อาจจะเจ็บได้มากกว่า Juvederm® หรือ Hylaform®
สรุปว่า การฉีดสารเติมเต็มจำพวก HA ในปัจจุบันถือว่ามีความปลอดภัยสูง แม้จะอยู่เพียงชั่วคราว สารเหล่านี้ ส่วนมากที่ใช้ในประเทศไทยผ่านการรับรองมาจาก FDA ของสหรัฐอเมริกา
หากได้รับการฉีดโดยแพทย์ที่มีความชำนาญและฉีดในตำแหน่งที่ถูกต้อง มักจะได้ผลค่อนข้างดีและปลอดภัย แต่อย่างไรก็ตาม ควรจะได้ตรวจสอบสารดังกล่าวก่อนฉีดว่าเป็นสาร HA จริงหรือไม่ โดยอาจจะขอดูกล่อง ดูหลอด ยา ดูสลากกำกับยา เพื่อจะได้ไม่ถูกฉีดสารอื่นที่เป็นสารต้องห้าม โดยอ้างว่าเป็นสารกลุ่มนี้ แล้วมีผลข้างเคียงที่ แก้ไขไม่ได้ในที่สุด
นพ.สุกิจ วรธำรง