จะเอายังไงดี ?? กะตาสองชั้น (ของฉัน)
ตอนนี้ Trend เกาหลีมาแรง อะไร อะไร ก็ขอให้เป็นเกาหลี รับรองขายได้ ช่อง 3 ถึงขนาดเอาหนัง “แดจัง กึม” มาฉายใหม่ แต่ rating ดี ไม่มีตกผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ติดหนังเรื่องนี้ เรียกได้ว่า ผ่าไปดูไปเลยทีเดียว เมื่อ หันมาดูด้านศัลยกรรมบ้าง ก็พบว่า คนไข้ส่วนใหญ่ก็ขอศัลยกรรมแบบเกาหลีด้วยเหมือนกัน ตั้งแต่ทำตาสองชั้นเกาหลี เสริมจมูกเกาหลี เสริมคางเกาหลี หน้าเรียวเกาหลี botox เกาหลี หรือแม้กระทั่ง เสริมหน้าอกเกาหลี อัน สุดท้ายเนี่ย ทำให้ผมถึงกับงง แล้วถามคนไข้กลับไปว่า ไปดูมาจากไหนหรอ หน้าอกเกาหลี?? คนไข้ตอบกลับมา ว่า อ้าวเห็นเป็น คลินิกศัลยกรรมเกาหลี เลยคิดว่ามี
ย้อนกลับไปดูหัวข้อเรื่อง ตาสองชั้น (ของฉัน) จะเอายังไงดี?? ก็พบว่า หลายครั้งที่คนไข้มาขอผ่าตัดตาแบบเกาหลี แต่หมอหลายคนบอกว่าทำไม่ได้ แล้วอธิบายเหตุผลแก่คนไข้ไป แต่คนไข้กลับไม่เชื่อ แล้วบอกกับหมอว่า มาผ่าตัด ตาเกาหลีทำไมหมอไม่ผ่าให้ ผมจึงขออธิบายลักษณะ ตาแบบที่เหมาะกับการผ่าตัดตาแบบเกาหลี ให้ฟังดังนี้นะครับ
1) หนังตาไม่หนา
2) ไขมันหรือถุงไขมันที่เปลือกตาบนไม่เยอะ
3) ชั้นตาไม่มีหรือเป็นชั้นตาแบบหลบใน
4) อายุไม่เกิน 30 ปี
ถ้ามีลักษณะดังกล่าวถือว่าเป็นบุคคลที่เหมาะกับการผ่าตัดตาแบบเกาหลี เมื่อเขียนมาถึงตรงนี้ บางคนอาจไม่ทราบว่าการผ่าตัดตาแบบเกาหลีเป็นอย่างไร จึงขออธิบายสั้นๆว่า เป็นการผ่าตัดฝังปมไหมไว้ใต้ผิวหนัง (buried suture technique) โดยอาจจะมีแผลผ่าตัดเป็นจุดเล็ก 2-3 จุด บริเวณเปลือกตา ไม่มีการผ่าตัดเอา หนังตาออกไป แต่อาจมีการเจาะเอาไขมันบริเวณเปลือกตาบนออก ตามจุดที่เจาะไว้ จากประสบการณ์ของผมพบ ว่า ข้อดีเพียงอย่างเดียวของ technique นี้คือ ใช้เวลาในการผ่าตัดสั้น คือแค่ 20 นาทีเท่านั้น ส่วนข้อเสียที่พบ คือเมื่อทิ้งระยะไปประมาณ 3 -6 เดือน ชั้นตาที่ได้ค่อนข้างมีขนาดเล็กเนื่องจากหนังตาที่ไม่ได้ตัดออกจะลงปิดบัง ชั้นตาที่เกิดขั้น (จะดูสวยถูกใจอยู่ประมาณ 1 เดือนแรก)
แล้วคนไข้แบบไหนที่ ไม่เหมาะ แล้วไม่ต้องไปคิดถึงการผ่าตัดตาแบบเกาหลี (Buried Suture Technique) ก็คือคนไข้ในกลุ่มดังกล่าวนี้ครับ
1) หนังตาตกตามอายุ (อายุ 40 ปีขึ้นไป) จะสังเกตได้จากเมื่อเขียน eye liner แล้ว เลอะเปลือกตา หรือ เขียนได้ไม่สวยเหมือนก่อน หรืออาจพบว่า ตาที่เคยมี 2 ชั้น กลายเป็น 3 ชั้น นั้นก็เป็นอาการแสดงหนังตา ตก หรือคนไข้บางคนอาจมีอาการของขนตาแยงตา ทำให้มีอาการเคืองตาน้ำตาไหลบ่อยๆ (ถ้ามีอาการ ขนาดนี้ควรรีบรักษาโดยด่วน เนื่องจากขนตาอาจก่อให้เกิด แผลบริเวณกระจกตาได้)
2) ผิวหนังบริเวณเปลือกตาหนา และมีถุงไขมันบริเวณเปลือกตามาก สังเกตว่า ตาจะดูปูดๆ ตาโปนๆ
3) กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Ptosis) ลักษณะที่เห็นบ่อยๆ คือ ตาจะดูเหมือนเศร้า ตาดูเหนื่อยๆอยู่ตลอดเวลา หรือเหมือนกับง่วงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งลักษณะดังกล่าว ต้องแก้ไขด้วยการผ่าตัดย่นระยะกล้ามเนื้อตาหรือการ ผ่าตัดที่เหมาะสม
“เมื่อท่านผู้อ่านทราบดังนี้ จะทำให้อย่างน้อยจะได้ไม่ fix idea ไปบอกคุณหมอว่า ขอผ่าตัดแบบเกาหลี เพราะ ถ้าคุณหมอท่านตามใจคนไข้ แล้วผ่าตัดไป อาจได้ผลลัพธ์ที่ไม่พึงปรารถนา ขอให้คิดไว้ว่า ไม่มีวิธีการผ่าตัดตาแบบใด เหมาะสำหรับทุกลักษณะของตา แต่ควรหาวิธีการผ่าตัดที่เหมาะกับตาของท่านจะดีกว่าครับ”
น.พ. อดุลย์ชัย แสงเสริฐ