ศัลยกรรมปลูกรากผม ปลุกความมั่นใจ

ความสําคัญของการปลูกผม

ถ้าบ้านเรามีการจัดอันดับเรื่องที่เอามาล้อเลียนกันมากที่สุด (ที่ฝรั่งเค้าเรียกว่าการ Bully) สําหรับคนไทยต้องนับเรื่องเตี้ย ดํา หัวล้าน เป็นสามอันดับต้นๆ ปัญหาผมบาง ศีรษะล้าน เป็นปัญหาใหญ่ เพราะสามารถเกิดกับใครก็ได้ ยากดีมีจนก็มีปัญหานี้ได้ทั้งนั้น เพราะสาเหตุหลักมันเกิดจาก พันธุกรรม การล้อเลียนแบบนี้ นอกจากจะไม่ส่งผลดีต่อบรรยากาศของการคบหาแล้ว ยังทำร้ายจิตใจของผู้ถูกล้อเลียนด้วย ปัญหาการล้อเลียนนั้นมีมากอย่างไม่น่าเชื่อ ในต่างประเทศ มีหนุ่มวัยรุ่นที่คิดจะฆ่าตัวตายเพราะปัญหานี้ มาแล้ว ในขณะที่คนไข้บางคนมีอาการซึมเศร้าขาดความมั่นใจอย่างมาก พลอยทําให้การดําเนินชีวิต และการเลือกคู่ครองผิดไป

ที่สําคัญแพทย์พบว่ามันเป็นอุปสรรคต่อการรักษา ในขณะที่คนไข้ต้องการการปรึกษาและการรักษา แต่กลับอายที่จะบอกคนรอบข้างเมื่อต้องมารับการผ่าตัดแล้วกลับไปโดนเพื่อนล้อ การรักษาส่วนใหญ่จึงกลายเป็นไปแอบหาข้อมูล หรือแอบซื้อยาตามการโฆษณาชวนเชื่อที่ไม่มีคุณภาพ จึงเสียทั้งเงินและโอกาสที่จะรักษาให้ดีขึ้นได้

ขอย้ำว่า ภาวะผมบางศรีษะล้านนั้น สาเหตุหลักมาจากพันธุกรรม ดังนั้นการล้อเลียนจึงถือว่าไม่สุภาพ และไม่ให้เกียรติ ลามถึงบุพการีด้วย เพราะเป็นการถ่ายทอดทางพันธุกรรม ใครที่ยังล้อเพื่อนเรื่องหัวเถิก หัวล้าน ผมน้อย หน้าผากกว้าง ให้คิดสักนิด ถึงใจเขาใจเรา

รักษาผมบางศีรษะล้านอย่างไรไม่ให้ถูกหลอก

เราจะเห็นว่าปัญหาผมบาง ศีรษะล้าน เป็นเรื่องใหญ่มาก แต่คนที่เข้าหาแพทย์เพื่อการรักษาจริงๆกลับมีน้อย ส่วนใหญ่คืออายที่จะหาทางรักษา มักจะไปหาข้อมูลผิดๆ หรือความเชื่อผิดๆ เช่น โดนแดดแล้วหัวล้าน ใส่หมวกแล้วหัวล้าน ทําสีผม ดัดผมแล้วผมร่วงหัวล้าน เป็นต้น

ที่จริงแล้วการที่เรื่องผมร่วงบ้าง เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว รากผมตั้งแต่เกิดจนตายจะไม่มีทางเพิ่มจำนวน แต่จะสลับกันร่วงตามวงจรชีวิตไปเรื่อยๆจนหมดอายุขัย วงจรชีวิตรากผมประกอบด้วย 3 ระยะเป็นหลัก คือ

  • ระยะแบ่งตัว หรือ Anagen phase เป็นระยะที่ผลิตเส้นผม ผมที่เราเห็น ยาวๆ อยู่บนศีรษะทั้งหมดจัดอยู่ในระยะแบ่งตัว ช่วงนี้กินเวลา 3-10 ปี ดังนั้น ผมคนเราจะไว้ยาวได้จํากัด เพราะรากผมนั้นจะร่วงไปก่อน ไม่เช่นนั้น ถ้าคนเราไม่ตัดผมเลยนาน 20 ปี ผมต้องยาวเฟื้อยไปเหมือนราพันเซล ซึ่งเป็นไปไม่ได้

  • ระยะร่วง หรือ Catagen phase คือระยะที่เส้นผมเริ่มร่วงตามวงจร หรือจากการที่มีสิ่งเร้า เช่น ความเครียด โรคภัยไข้เจ็บ ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง มากระตุ้น ก็จะทะยอยกันร่วง ช่วงนี้กินเวลา 2-3 สัปดาห์ ระยะนี้คือระยะที่คนส่วนใหญ่เกิดอาการวิตกว่าผมร่วงมาก และมาหาแพทย์ จริงๆแล้วภาวะ เครียดมักจะเกิดก่อนหน้านี้ 2-3 สัปดาห์

  • ระยะพัก หรือ Telogen phase เป็นระยะที่รากผมหดสั้น และไม่แบ่งตัว ระยะนี้เราจะไม่เห็นเส้นผมยาวๆ รูขุมขนนั้นๆจะเหลือแค่ขนเส้นฝอยๆ สั้นๆ รอเวลาย้อนกลับไปเป็นระยะแบ่งตัวใหม่ในอีก 3-4 เดือนข้างหน้า

การที่ผมร่วงบ้างจึงเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อใดที่มีสิ่งเร้ามา กระตุ้น (ความเครียด โรคภัย ฮอร์โมน) ก็จะร่วง ถ้าร่วงมากต้องหาสาเหตุที่มากระตุ้น ในกรณีที่รากผมอ่อนแอจากพันธุกรรมด้วย แต่ละรอบที่ร่วงไป ก็จะขึ้นมาใหม่เป็นเส้นเล็กลงเรื่อยๆ จนค่อยๆกลายเป็นลูกผมหรือไรผม คนที่ ศีรษะล้าน ถ้าเอาแว่นขยายไปส่องจะเป็นไรผมจำนวนมาก แต่ไม่ยาวออกมาเป็นเส้นใหญ่ๆ จึงดูเหมือนว่าง โล่ง หัวล้านไปเลยนั่นเอง

ในเมื่อความสำคัญของสุขภาพผมอยู่ที่ตัวรากผมเองว่าแข็งแรงหรือไม่ ดังนั้นการรักษาจึงมุ่งไปที่สาเหตุที่ถูกต้อง การรักษาที่ได้ผลจริงในปัจจุบันมีแค่

1. การใช้ยาต้านฮอร์โมน DHT (ที่คนกลัวนักหนา เพราะกดสมรรถภาพทางเพศ)
2. การทายา 5% Minoxidil 
3. การใช้แสงเลเซอร์พลังงานต่ำ

การรักษาทั้งสามอย่างนี้ ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ ว่าได้ผลจริง ในแง่ชะลออาการผมร่วงเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม พันธุกรรมที่รากอ่อนแอก็ชนะในที่สุด ส่วนกรณีการใช้แชมพูสมุนไพร ฝังเข็ม กดจุด หรือน้ำมนต์อื่นๆที่อวดอ้างสรรพคุณ ก็ใช้ได้ตามวิธีคิดเรื่องความสบายใจ แต่หวังผลได้ยาก และส่วนมากจะถูกหลอกขายผลิตภัณฑ์ ที่ว่ารับประกันคืนเงิน แต่ไม่เคยมีจริง

จะเห็นว่าศัลยกรรมปลูกผมไม่ได้ถูกจัดว่าเป็นการช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผมเลย เพราะการย้ายรากผมด้วยการผ่าตัดเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เมื่อผมร่วงศีรษะล้านไปมากแล้ว การจะกลับมามีภาพลักษณ์ที่ดีดังเดิมนั้น คือต้องไปเอารากผมจากบริเวณอื่นของศีรษะมาปลูกทดแทนนั่นเอง

ศัลยกรรมปลูกผมคืออะไร ทําไมถึงได้ผล?

ศัลยกรรมปลูกผม คือการย้ายรากผมส่วนที่แข็งแรงมาปลูกทดแทนส่วนที่ร่วงหรือแหว่งไปแล้ว โดยรากผมที่นํามาปลูก มักนํามาจากท้ายทอย เพราะรากผมที่อยู่บริเวณท้ายทอยมีความแข็งแรง และอายุยืนกว่าผมที่อยู่ กลางศรี ษะ สาเหตุมาจากหน่วยพันธุกรรมของเซลล์ รากผมไม่ตอบสนองต่อการกระตุ้นให้ร่วงโดยฮอร์โมนเพศชาย แต่ข้อข้องใจที่ผู้ที่มีปัญหาส่วนใหญ่ยังไม่กล้าที่เข้ารับการรักษาก็คือ “ที่ว่าผลการรักษาถาวรนี้ มันถาวรจิงหรือเปล่า?..” หลายคนยังไม่แน่ใจว่า เมื่อลงทุนเจ็บตัว เสียเวลาเสียค่ารักษามากมายแล้ว ผมที่ปลูกใหม่ และที่งอกออกมาแล้วจะอยู่นานตลอดไปจริงหรือไม่ หรือเมื่อเวลาผ่านไป จะร่วงอีกหรือไม่

คำตอบตามหลักวิชาการ คือ อาจจะได้ผลถาวร หรือ ไม่ถาวรก็เป็นได้

ที่เป็นเช่นนี้ เพราะปกติผมที่เรานํามาจากท้ายทอย หรือส่วนบริจาค จะเป็นผมที่ทนทาน ไม่ตอบสนองต่อฮอร์โมนเพศชาย ที่เรียกว่า DHT (Dihydrotestosterone) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของผมร่วง ศีรษะล้าน จากพันธุกรรม

ดังนั้น เมื่อไม่ตอบสนองต่อส่ิงเร้า ก็จะมีอายุยืนยาวตามปกติของรากผมนั้นๆ จนกลายเป็นผมถาวร เพราะปกติรากผมคนเรา จะมีวงจรชีวิต ที่ต้องเข้าสู่ระยะพักทุกๆ 6-10 ปี และระยะเวลาประมาณ 20 รอบ นั่นแปลว่า รากที่แข็งแรงตามปกติ จะต้องมีอายุประมาณ 120-200 ปี

ทั้งนี้แต่ละรอบวงจร ขนาดอาจจะเล็กลงบ้าง ซึ่งจะเห็นว่าผมเส้นเล็กลงบ้างตามวัยที่สูงขึ้น ดังนั้น รากผมจากท้ายทอยที่ย้ายมาปลูก ก็จะมีอายุตามนั้น เราอาจจะเรียกว่าเป็นผมถาวรก็ย่อมได้ เพราะมันอยู่นานเกินกว่า อายุขัยของคนเราเสียอีก

มีกรณีที่ปลูกแล้ว อยู่ไม่ถาวร หรือร่วงหายไปอีกไหม?

ตอบได้ว่ามี ที่เป็นเช่นนี้เพราะสาเหตุหลักๆ คือ

1. วงจรชีวิตของรากผมในคนๆนั้นมีระยะสั้น ซึ่งมักเกิดจากมีความเครียด หรือความกัดดันอื่น มากระตุ้นบ่อย เช่น เจ็บไข้ได้ป่วยรุนแรงเป็นประจำ มีภาวะเครียดทางจิตใจมากตลอดเวลา ความเครียดเหล่านี้ จะทําให้ วงจรชีวิตรากผมหมุนเร็วขึ้น จากที่เคยมีอายุ 6-10 ปี ก็ลดลงเป็น 2-3 ปี แต่อย่างไรก็ตาม กว่าจะบางหรือร่วงไป ก็มักจะเป็นช่วงอายุมากแล้ว

2. การปลูกผมนั้นทําอย่างไม่ได้มาตรฐาน พบได้บ่อยมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากมีสถาบันที่ให้บริการด้านการผ่าตัดปลูกผมมากขึ้น แต่แพทย์ที่ให้บริการ ไม่ได้มีความรู้และประสบการณ์เพียงพอ การเลือกรากผม ที่จะนํามาปลูกผิดพลาด เช่น ไปผ่าตัดเลือกรากผมมาจากตําแหน่งที่ไม่ใช่ผมถาวรตามมาตรฐาน เมื่อเวลาผ่านไป ผมเหล่านั้นก็ร่วงไปตามพันธุกรรมที่อ่อนแอ ทําให้ได้ผลการรักษาไม่ดีอย่างที่ควรจะเป็น

การผ่าตัดย้ายเซลล์รากผมนั้น มีมานานมากกว่า 40 ปีแล้ว คนไข้ที่ได้เคยทําการผ่าตัดในยุคแรกๆ เมื่อติดตามการรักษาก็ยังพบว่าผมที่ปลูกนั้นแข็งแรงดี มีแต่ผมตามธรรมชาติที่อ่อนแอทางพันธุกรรมเท่านั้นที่ร่วงหายไป

ยกตัวอย่าง เช่น มีบ้างเหมือนกันที่ผมปลูกบางลงตามอายุ เนื่องจาก เซลล์รากผมค่อยๆเสื่อมประสิทธิภาพลง แต่ก็ยังช้ามากเมื่อเทียบกับอัตราการเสื่อมของผมที่ด้านบนศีรษะ หมอเองก็มีคนไข้ที่มีประวัติเคยปลูกผมมาก่อน แล้วต้องการมาปลูกเพิ่ม เนื่องจากผมเดิมร่วงไปอีกตามกาลเวลา ดังภาพตัวอย่างนี้ เป็นคนไข้ที่ได้รับการผ่าตัดปลูกผมไปเมื่อ 10 ปีก่อน เวลาผ่านไปผมที่ปลูกตรงง่ามยังอยู่ แต่ส่วนที่เหลือร่วงหายไปหมด

หลังปลูกผมเฉพาะแนวผมด้านหน้า 18 เดือน จะเห็นว่าผมตรงกลางศีรษะเริ่มบางลง และเห็นชัด

หลังปลูกผมเฉพาะแนวผมด้านหน้า 18 เดือน จะเห็นว่าผมตรงกลางศีรษะเริ่มบางลง และเห็นชัด

เคสน้ีเคยปลูกผมตามแนวด้านหน้าเม่ือประมาณ 5 ปีก่อน จะเห็นว่าผมเดิมที่กลางกระหม่อม เริ่มถอยร่นไปตามกาลเวลา ดังนี้จึงจําาเป็นต้องตามปลูกเพิ่มในส่วนท่ีหายไป

เคสน้ีเคยปลูกผมตามแนวด้านหน้าเมื่อประมาณ 5 ปีก่อน จะเห็นว่าผมเดิมที่กลางกระหม่อม เริ่มถอยร่นไปตามกาลเวลา ดังนั้นจึงจําเป็นต้องตามปลูกเพิ่มในส่วนท่ีหายไป


ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับศัลยกรรมปลูกผม โฆษณาลวงหรือเฉไฉให้เข้าใจผิดในมาตรฐานการปลูกผม

ปลูกผมแบบไม่ผ่าตัด เทคนิคที่ไม่มีจริง!!!

การปลูกผมด้วยศัลยกรรมย้ายรากถือเป็นการผ่าตัดอย่างหน่ึง ไม่ว่า จะเป็นแบบกรีด หรือแบบเจาะ (FUT หรือ FUE) ต่างก็ใช้คําาว่า surgery ซึ่งหมายถึงการผ่าตัดเหมือนกัน ดังนั้นการโฆษณาชวนเชื่อว่าไม่ใช่การผ่าตัด จึงไม่เป็นความจริง

การเจาะรากผมขึ้นมาใช้ปลูกหรือ FUE (follicular unit extraction) ก็ถือได้ว่ามีการผ่าตัดผ่านชั้นผิวหนัง และก่อให้เกิดแผล ดังนั้นย่อมเป็นการผ่าตัด และไม่สามารถทําให้ลุล่วงได้โดยไม่ใช้ยาชา เพราะจะทําให้เจ็บมาก

การโน้มน้าวว่า FUE เป็นวิธีที่ดีกว่า เพราะไม่ต้องผ่าตัดถือเป็น “การโกหก” เลยทีเดียว

ปลูกผมแบบ FUE ดีกว่า FUT (แบบเจาะดีกว่าแบบผ่าตัด) ??

ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริงเสมอไป เพราะจริงๆแล้ว การทำ FUE หรือการเจาะ ซึ่งมีพื้นที่แผลเปิดมากกว่าเทคนิค FUT ที่เย็บปิดแผลอย่างเรียบร้อยด้วยซ้ำ โอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน ทั้งการติดเชื้อ เสียเลือด ผมร่วง เพราะขาดเลือดอาจจะมากกว่าวิธี FUT ด้วย รากผมที่ได้จากวิธีผ่าตัดมักจะมีอายุขัยยืนยาวกว่า รากผมจาก FUE โดยเฉลี่ย เรื่องนี้ถ้าเป็นแพทย์ผ่าตัดปลูกผมอย่างจริงจังจะสามารถบอกถึง ข้อดีและข้อเสียได้ บางกรณีคนไข้อาจจะเหมาะกับวิธีดั้งเดิมมากกว่า โดยเฉพาะคนที่มีศีรษะล้านเป็นบริเวณกว้าง

แพทย์ที่มีประสบการณ์การผ่าตัดทั้งสองแบบ ย่อมสามารถให้ข้อมูล เปรียบเทียบที่แท้จริงได้ โดยเฉพาะการที่ไม่มีใจโอนเอียงไปทางเทคนิคด้านใดด้านหนึ่ง จึงสามารถคํานึงถึงผลประโยชน์ของคนไข้เป็นหลัก ถ้าพื้นฐานไม่ใช่หมอผ่าตัดก็มักจะผ่าไม่เป็น และทีมงานไม่สามารถทําเทคนิค FUT ได้ จึงมักสนับสนุนให้เจาะ หรือ FUE เท่านั้น ทั้งที่คนไข้อาจจะไม่เหมาะกับ เทคนิคดังกล่าว

ปลูกผมไร้แผลเป็น!!

การผ่าตัด หมายความว่าต้องเกิดแผล ดังนั้น ต้องมีแผลเป็นแน่นอน เพียงแต่วิธีการซ่อนแผลจะเป็นรูปแบบใดเท่านั้น เช่น แผลกรีดที่เย็บได้ดีมีขนาดเล็กก็สามารถปกปิดได้ง่ายด้วยผมที่เหลืออยู่ หรือ แผลเจาะเป็นจุดๆกระจายกันอยู่ สามารถซ่อนได้ง่าย แม้จะตัดทรงผมให้สั้นมาก (เช่น สกินเฮด หรือ รองทรงทหาร) การผ่าตัดแบบไม่มีแผลเป็นมีแต่ในเทพนิยายเท่านั้น สมาคมแพทย์ปลูกผมนานาชาติ ได้ออกแถลงการณ์ประณามการโฆษณาชวนเชื่อแบบนี้ ออกมาเป็นที่รู้กันทั่วโลก แต่ในเมืองไทยยังตกขบวน ยังตกเป็นเหยื่อของการโฆษณาที่ผิดจริยธรรมอยู่มาก

ปลูกผมโดยเทคนิคเกาหลี

ขอเรียนตามตรงว่าแพทย์เกาหลีต้องเดินทางมาดูงานในประเทศไทย ดังนั้นจึงไม่จําเป็นต้องพึ่งเทคนิคเกาหลี อีกอย่าง เส้นผมคนแต่ละเชื้อชาติ มีรายละเอียดแตกต่างกัน เหมือนจมูก ตา ปาก เนื้อหนังคนไทยไม่เหมือนคนเกาหลี เทคนิคที่ใช้ดีกับคนเกาหลีไม่ได้หมายความว่าดี และไม่ใช่เรื่องจําเป็น

ปลูกผมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ปัจจุบันมีการใช้คําว่าเชี่ยวชาญทุกแห่งหน แม้เดินทางไปต่างประเทศ ดูงาน 3 วัน ก็กลับมาเป็นผู้เชี่ยวชาญแล้ว ดังนั้นผู้รับบริการควรตรวจสอบ ถึงใบอนุญาตหรือประกาศนียบัตรที่ถูกต้อง และควรหาโอกาสปรึกษาแพทย์ ด้วยตัวเอง เพราะจะเป็นการอันตรายมาก หากท่านไม่ได้คุยกับแพทย์ที่จะทําการปลูกผมด้วยตนเอง เนื่องจากบางแห่งใช้การพูดคุยผ่านพนักงานขาย (Sale) หรือนายหน้าอย่างเดียว โดยไม่ได้คุยรายละเอียดกับแพทย์

บางแห่งจะใช้พนักงานให้คําปรึกษา เรียกตัวเองว่าเป็นที่ปรึกษาความงาม ซึ่งคนเหล่านี้อาจจะไม่ได้จบมาทางด้านการแพทย์ หรือสาธารณสุขเลยด้วยซ้ำ แต่เป็นผู้ให้ข้อมูล และ ‘เชียร์แขก’ ดังนั้น บางครั้งก็พยายามพูดโอ้อวดเกินจริง หรือพูดในสิ่งที่ตัวเองก็ไม่ได้มีความเข้าใจจริง ในหลักการ ผู้รับบริการควรต้องใช้วิจารณญาณอย่างรอบคอบ

พญ.กุลกานต์ อมรพัฒนา

ThPRS of Thailand